วันศุกร์ที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2560

บันทีกการเรียนประจำวันพุธ ที่ 26 เมษายน 2560

Lesson 12


 Knowledge:


  • นำเสนอโมเดลโรงเรียน


 กลุ่มที่1     โรงเรียนสงวนสิทธิ์วิทยา










โรงเรียนไอวีบราวน์



โรงเรียน Charisma International






Apply:  
  • ทำให้เราได้เรียนรู้ถึงหลักในการออกแบบโรงเรียน รวมถึงโครงสร้างส่วนประกอบของโรงเรียนที่เอื้ออำนวยต่อความสะดวกแก่เด็กที่มีผลต่อการพัฒนาเด็กปฐมวัย
Evaluation: 

 Teacher :  
  • เข้าสอนตรงเวลา อธิบายเนื้อหาได้ละเอียดชัดเจนตรงตามเนื้อหาที่เรียน 
   Friends:  
  • เข้าเรียนตรงต่อเวลา  แต่งกายเรียบร้อย  มีการเตรียมการนำเสนอมาอย่างดี
 Self:  
  • เข้าเรียนตรงต่อเวลา แต่งกายเรียบร้อย




วันอาทิตย์ที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2560

บันทึกการเรียนประจำวันพุธ ที่ 5 เมษายน 2560

Lesson 11



 Knowledge:

  • นำเสนอคำคม
นางสาวเวรุวรรณ  ชูกลิ่น



" ในยามรุ่งเรือง

เพื่อนจะรู้จักเรา

แต่ในยามวิกฤติ

เราจะรู้จักเพื่อน"



  • นำเสนอการสัมภาษณ์ผู้บริหาร


โรงเรียนงามมานะ 


ข้อมูลพื้นฐานของโรงเรียน

ปรัชญา      :  “ความดีและความรู้เป็นการพัฒนาคุณภาพชีวิต”

วิสัยทัศน์     : เป็นโรงเรียนที่มุ่งพัฒนา   คุณภาพนักเรียน รักษ์สิ่งแวดล้อม

                        และความเป็นไทย  พร้อมก้าวไกลสู่ประชาคมอาเซียน

พันธกิจ

  1. การบริหารจัดการแบบมีส่วนร่วม
  2. การเสริมสร้างศักยภาพครู
  3. การพัฒนาคุณภาพนักเรียน
  4. รักษ์สิ่งแวดล้อมและความเป็นไทย
  5. โรงเรียนมีความสัมพันธ์ที่ดีกับชุมชน
  6. โรงเรียนบริหารจัดการระบบการประกันคุณภาพ


จำนวนครูนักเรียนบุคลากรทางการศึกษา

จำนวนนักเรียนในเขตพื้นที่บริการ 428 คน
จำนวนครูที่สอนตรงวิชาเอก 19 คน
จำนวนครูที่สอนตรงตามความถนัด 5 คน
บุคลากรในสถานศึกษา 6 คน
        แบ่งเป็น 
        -เจ้าหน้าที่ธุรการ 1 คน 
        -พี่เลี้ยงเด็ก 2 คน 
        -พนักงานสถานที่ 3 คน

การจัดการเรียนการสอน
โรงเรียนงามมานะ(แผน-ทับอุทิศ)จัดการเรียนการสอนตาม
หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551

 หลักสูตรที่ใช้
หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551

สภาพบริบททางโรงเรียน
ลักษณะชุมชนที่โรงเรียนตั้งอยู่เป็นชุมชนขนาดกลาง ประชาชนส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลามร้อยละ 80 ประกอบอาชีพรับจ้าง




ขอขอบคุณ
ผู้อำนวยการว่าที่ร้อยตรีสุเมธ  สุจริยวงศ์ 





โรงเรียนอนุบาลลูกหนู





ข้อมูลพื้นฐานโรงเรียนอนุบาลลูกหนู



ปรัชญา

ส่งเสริมปัญญา  พัฒนาปฐมวัย   และใฝ่ใจใจคุณธรรม


วิสัยทัศน์

เรียนและเล่นให้สนุก   ได้ความรู้ควบคู่-คุณธรรม 
มีกระบวนการความคิดสร้างสรรค์  สืบสานวัฒนธรรมไทย  ก้าวทันเทคโนโลยี

พันธกิจ
  1. ส่งเสริมให้ครูได้เข้ารับการอบรมเกี่ยวกับการวิเคราะห์และจัดทำหลักสูตรของสถานศึกษาได้อย่ามีประสิทธิภาพ ซึ่งเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญในการพัฒนาเด็กปฐมวัยให้ครบทั้ง 4 ด้าน
  2. จัดสภาพแวดล้อมและอุปกรณ์ในการเรียนการสอนเพื่อให้ผู้เรียนได้ลงมือปฏิบัติจากประสบการณ์จริง โดยคำนึงถึงความแตกต่างทางศักยภาพของแต่ละบุคคล ให้ครู ผู้บริหาร ครู ถ่ายทอดความรู้สู่ผู้ปกครองและชุมชน ในการพัฒนาการจัดการศึกษาปฐมวัยและร่วมกันเสนอแนะ
  3. จัดกิจกรรม/โครงการต่างๆที่พัฒนาเด็กให้มีระเบียบวินัย มีคุณธรรม จริยธรรม รู้จักการรอคอยรู้จักช่วยเหลือผู้อื่นอย่างเหมาะสมตามวัย และสามารถปฏิบัติตามขนบธรรมเนียมประเพณีไทย ปลูกฝังให้เด็กได้ซึมซับคุณค่าของความเป็นไทย และสร้างจิตสำนึกที่ดี โตไปไม่โกง
  4. จัดกิจกรรมการนั่งสมาธิให้เกิดสติ กิจกรรมการช่วยเหลือสังคม กิจกรรมรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
  5. โรงเรียนส่งครูเข้าอบรมเชิงปฏิบัติในด้านวิชาการ จัดการนิเทศทั้งภายใน ภายนอกและเชิญวิทยาผู้ทรงคุณวุฒิมาให้ความรู้ในด้านวิชาการอย่างต่อเนื่อง
  6. ให้บุคลากรทางการศึกและครูปฏิบัติหน้าที่ทางการศึกษาใช้สารสนเทศเป็นฐานในการจัดการโรงเรียนจัดให้มีโครงการต่างๆ ที่มีเป้าหมายในการอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และรณรงค์ในเรื่องของยาเสพติด

โครงสร้างการบริหารงาน-โรงเรียนอนุบาลลูกหนู




ขอขอบคุณ
โรงเรียนอนุบาลลูกหนู





โรงเรียน เทพประทานพร
จังหวัด นนทบุรี





วิสัยทัศน์
1. มุ่งมั่นพัฒนาโรงเรียนให้มีความพร้อมทุกด้านที่จะเป็นโรงเรียนที่สมบูรณ์แบบ 
2. มีประสิทธิภาพในการเรียนการสอน 
3. พัฒนาศักยภาพของผู้เรียนอย่างมีประสิทธิภาพ 
4. เน้นความเป็นเลิศในวิชาคณิตศาสตร์ภาษาไทยและภาษาอังกฤษ
5. มีคุณธรรมจริยธรรมมารยาทการอยู่ร่วมสังคมอย่างมีความสุข
6. มีความภาคภูมิใจในความเป็นไทย 
7.    รู้ทันเรื่องม่านเมฆภาษาล้ำหน้าเรื่องไอที


เป้าหมาย

        1.  บริหารและจัดการศึกษาอย่างมีคุณภาพและประสิทธิภาพสูงสุด
2. นักเรียนต้องพัฒนาสติปัญญาสร้างกระบวนการเรียนรู้ที่สามารถคิดเป็นทำเป็นและแก้ไขปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ 
3. นักเรียนมีสุขภาพกายสุขภาพ กายกายที่สมบูรณ์แข็งแรงมีจริยธรรมคุณธรรมอยู่ในสังคมอย่างเป็นสุข
4. นักเรียนสามารถดำเนินชีวิตได้อย่างเหมาะสมตามวิถีทางความเป็นไทยตามหลักเศรษฐกิจอย่างพอเพียงและช่วยเหลือครอบครัวรวมถึงสังคมได้
5. นักเรียนทุกคนได้พัฒนาความสามารถเต็มศักยภาพ


เอกลักษณ์ / อัตลักษณ์

เรียนดี มีมารยาท รักวินัย คงความเป็นไทย
เรียนดี หมายถึง นักเรียนทุกคนจะได้รับการพัฒนาศักยภาพในการเรียนให้มีความรู้เฉลียวฉลาดได้รับองค์ความรู้ครบครันตามหลักสูตร
มีมารยาท หมายถึง นักเรียนทุกคนจะต้องได้รับการอบรมการสั่งสอนพัฒนาให้เป็นผู้มีระเบียบวินัยต่อตนเอง
รักวินัย หมายถึง นักเรียนทุกคนจะต้องได้รับการอบรมการสั่งสอนพัฒนาให้เป็นผู้มีระเบียบวินัยต่อตนเอง และรู้จักขอบเขตหน้าที่เป็นพลเมืองที่ดี
คงความเป็นไทย หมายถึง นักเรียนทุกคนจะต้องได้รับการอบรมการสั่งสอนพัฒนาให้เป็นผู้มีจิตสำนึกที่จะประพฤติปฏิบัติอยู่ในสังคม

ข้อมูลสภาพชุมชนโดยรวม

อาชีพหลังของชุมชน
รับราชการ
ค้าขาย
รับจ้าง

ศาสนาที่ชุมชนนับถือ
พุทธ
คริสต์
อิสลาม





ขอขอบคุณ
โรงเรียน เทพประทานพร 
จังหวัด นนทบุรี





Apply:  
  • ทำให้เราได้เรียนรู้ถึงหลักเกณฑ์ในการจัดตั้งและการบริหารสถานศึกษา
Evaluation: 

 Teacher :  
  • เข้าสอนตรงเวลา อธิบายเนื้อหาได้ละเอียดชัดเจนตรงตามเนื้อหาที่เรียน 
   Friends:  
  • เข้าเรียนตรงต่อเวลา  แต่งกายเรียบร้อย  มีการเตรียมการนำเสนอมาอย่างดี
 Self:  
  • เข้าเรียนตรงต่อเวลา แต่งกายเรียบร้อย



วันเสาร์ที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2560

บันทึกการเรียนประจำวันพุธ ที่ 29 มีนาคม 2560

Lesson 10



 Knowledge:


  • นำเสนอคำคม
นางสาวชนากานต์  พงษ์สิทธิศักดิ์




นางสาวรัตนาภรณ์  คงกะพันธ์


ภาวะผู้นำ

"เป็นเรื่องของการกระทำ

ไม่ใช่เรื่องของตำแหน่ง"



  • การจัดตั้งสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย




  • หลักเกณฑ์การจัดตั้งสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย





Apply:  
  • ทำให้เราได้เรียนรู้ถึงหลักเกณฑ์ในการจัดตั้งสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย
Evaluation: 

 Teacher :  
  • เข้าสอนตรงเวลา อธิบายเนื้อหาได้ละเอียดชัดเจนตรงตามเนื้อหาที่เรียน 
   Friends:  
  • เข้าเรียนตรงต่อเวลา  แต่งกายเรียบร้อย  มีการเตรียมการนำเสนอมาอย่างดี
 Self:  
  • เข้าเรียนตรงต่อเวลา แต่งกายเรียบร้อย

วันเสาร์ที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2560

บันทึกการเรียนประจำวันพุธ ที่ 22 มีนาคม 2537

Lesson 9



 Knowledge:


  • นำเสนอคำคมการบริหาร

นางสาววัชรี  วงศ์สะอาด

"ทุกคนเป็นอัจฉริยะ 

แต่ถ้าคุณตัดสินปลา

โดยความสามารถ

 ในการปืนต้นไม้

ทั้งชีวิตมันจะคิดว่ามันโง่"


นางสาวยุภา  ธรรมโครต

อย่าพึ่งคิดบริหารธุระกิจ

ถ้าแค่...

"บริหารชีวิต"

ยังไม่เป็น




  • นำเสนอบทบาทการเป็นผู้บริหาร


























Apply:  
  • ทำให้เราได้เรียนรู้ถึงเทคนิคการปฏิบัติตัวการพัฒนาบุคคลิกภาพเพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบัติการเป็นผู้บริหารที่ดีและมีประสิทธิภาพ
Evaluation: 

 Teacher :  
  • เข้าสอนตรงเวลา อธิบายเนื้อหาได้ละเอียดชัดเจนตรงตามเนื้อหาที่เรียน 
   Friends:  
  • เข้าเรียนตรงต่อเวลา  แต่งกายเรียบร้อย  มีการเตรียมการนำเสนอมาอย่างดี
 Self:  
  • เข้าเรียนตรงต่อเวลา แต่งกายเรียบร้อย

วันจันทร์ที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2560

บันทึกการเรียนประจำวันพุธ ที่ 15 มีนาคม 2560

Lesson 8



 Knowledge:



  • เทคนิคการเสริมสร้างบุคลิกภาพที่ดีสำหรับการเป็นผู้บริหาร



ความหมายของบุคลิกภาพ

                บุคลิกภาพภายนอก สามารถสังเกตเห็นหรือสัมผัสได้ด้วยประสาททั้ง 5 คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย สามารถปรับปรุงเปลี่ยนแปลงได้โดยการฝึกเลียนแบบ และสามารถวัดผลได้ทันที บุคลิกภาพภายนอกที่สำคัญที่สุด คือ บุคลิกภาพทางกายและวาจา 

บุคลิกภาพภายใน  บุคลิกภาพที่ไม่สามารถมองเห็นได้ชัดเจน เป็นส่วนที่สัมผัสได้ค่อนข้างยากและต้องใช้เวลาในการสัมผัส

สาเหตุที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงบุคลิกภาพ คือความท้อถอย
บุคลิกภาพที่ไม่สร้างสรรค์และอยู่ภายในตัวตนแล้วทำให้ความเป็นคนๆ นั้นไม่สมบูรณ์ ได้แก่ความท้อถอยแม้ว่าเป็นประโยคสั้นๆ แต่ถ้าอาการนี้ถ้าเกิดขึ้นกับใครแล้ว อาการนี้จะเข้ามาทำลายความสมดุลในตัวเรา เข้ามาแทรกในความรู้สึกนึกคิดทำให้พลังและศักยภาพของเราลดน้อยลงกว่าครึ่ง ในเรื่องความท้อถอยมักเกิดขึ้นกับบุคคลที่อยู่ในช่วงอายุ 20-40 ปี แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าบุคคลในช่วงอายุอื่นจะไม่มีความท้อ บางท่านอาจเกิดอาการท้อเป็นช่วงๆ บางท่านโชคดีไม่รู้จักความท้อ 

ความท้อถอยสามารถสังเกตได้จากอาการ 3 ลักษณะ คือ

1. ลักษณะของความท้อถอยทางด้านอารมณ์ หรือ ความอ่อนล้าทางอารมณ์ ได้แก่ความรู้สึกเบื่อหน่าย ความอ่อนล้า หมดเรี่ยวหมดแรง เกิดความเครียด ความคับข้องใจ ไม่สบอารมณ์   
2. ลักษณะของความท้อถอยที่เกิดจากสัมพันธภาพกับบุคคลอื่น ได้แก่ ลักษณะของบุคคลที่ไม่สนใจในพฤติกรรมของใครๆ ไม่ยินดียินร้าย ใครจะทักก็ช่าง ใครไม่ทักก็ช่าง ไม่ใส่ใจพฤติกรรมของคนอื่น มีเจตคติและแนวคิดที่ไม่ดีต่อคนอื่น มองคนอื่นในแง่ร้าย 
3. ลักษณะของความท้อถอยที่เกิดจากการไม่ประสบความสำเร็จในการทำงานของคนบางท่านอาจจะรู้สึกเองว่าตนเองไร้ความสามารถ การทำงานล้มเหลว งานไม่สมกับที่ตั้งใจไว้ บุคคลกลุ่มนี้จะมองคุณค่าของตนเองต่ำ

แนวทางและวิธีการในการแก้ไขอาการท้อถอย

1. ทุกสิ่งทุกอย่างต้องแก้ไขที่ตัวเราเองเท่านั้น 
2. อย่าเป็นคนตั้งความหวัง ความปรารถนาที่สูงสุดเอื้อม 
3. สร้างเจคติเรื่องงานใหม่ให้ท่านคิดว่า 
“งานคือชีวิต ชีวิตคืองานบันดาลสุขทำงานให้สนุกเป็นสุขเมื่อทำงาน”
4. มองหาจุดมุ่งหมายในชีวิตใหม่ 

ครูกับการพัฒนาตน

. ครูควรพัฒนาตนเองใน 2 ลักษณะคือ

1. การพัฒนาตนเองในด้านวิชาชีพ เพื่อการประกอบวิชาชีพอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งได้แก่
- การพัฒนาในด้านความรู้
- การพัฒนาในด้านเทคโนโลยี
- การพัฒนาในด้านคุณลักษณะกับเจตคติ
2. การพัฒนาตนในด้านการเป็นสมาชิกของสังคม เพื่อการดำรงชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข 
- การรู้จักตนเองและการเข้าใจตนเอง
- การสำรวจตนเอง
- การปรบปรุงตนเองในด้าน การพัฒนาบุคลิกภาพภายนอก – ภายใน การพัฒนาลักษณะนิสัยที่ดี การพัฒนามนุษยสัมพันธ์ การพัฒนาการเรียนรู้


หลักและวิธีเสริมสร้างบุคลิกภาพ

การยืน เดิน นั่งเป็นส่วนสำคัญที่บอกถึงบุคลิกภาพของแต่ละบุคคลอิริยาบถคือการเดิน ยืน นั่ง เปิด-ปิดประตู ขึ้นลงรถ อย่างถูกต้องสวยงาม  
การรู้จักทำตัวให้เข้ากับบุคคล สถานที่ และเวลา อย่างถูกต้องถือว่ามีมารยาททางสังคมที่ดี เช่น การรู้จักกราบไหว้ที่ถูกวิธี และถูกกาลเทศะ 
การรู้จักธรรมเนียมของชาวต่างชาติ การปฏิบัติตนในงานเลี้ยงต่างๆการไปเยี่ยมคนป่วยการมอบดอกไม้แสดงความยินดีหรือให้ผู้อาวุโส เป็นต้น  
บางครั้งเราอาจจะต้องอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ทันได้เตรียมตัวเตรียมใจ และอาจเกิดอะไรขึ้นกับเราได้ทุกวินาทีนั้น เราต้องพร้อมเสมอที่จะเผชิญกับเหตุการณ์ในลักษณะที่พร้อม คือไม่ตกใจ ดีใจ เสียใจ กลัว เกินกว่าเหตุ สามารถควบคุมท่าทางของตนเองได้เป็นอย่างดี

การพัฒนาบุคลิกภาพด้านความรู้สึกนึกคิด


ความรู้สึกนึกคิดของแต่ละคนย่อมไม่เหมือนกัน ถ้ามีความรู้สึกนึกคิดในด้านดี
ไม่มองคนในแง่ร้ายจิตใจก็เป็นสุข ไม่มีความกังวล ดังนั้นจึงควรพัฒนาบุคลิกภาพด้านความรู้สึกนึกคิดดังนี้
 1.  มีความเชื่อมั่นในตนเองในการกระทำในสิ่งต่าง ๆ
  2.  มีความซื่อสัตย์ กระทำตนให้ผู้อื่นเชื่อถือเรา แล้วความไว้วางใจจะตามมา มีเรื่องสำคัญเขาก็จะให้เราทำ
 3.  มีความสามารถที่จะทำสิ่งเหล่านั้น ให้เหมาะสมกับผู้ที่มอบหมายไว้วางใจให้เราทำ
 4.  มีความกระตือรือร้น ที่อยากจะทำ เตรียมตัวให้พร้อมอยู่เสมอ
 5.  มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ รู้จักปรับปรุงงานอยู่เสมอ
 6.  มีความรับผิดชอบ ไม่ว่าจะทำอะไรก็ตามต้องมีความห่วงใยจะต้องทำให้เสร็จทันตามกำหนดเวลา   7.  มีความรอบรู้                    
 8.  ห่วงตัวเอง เติมชีวิตให้กับตัวเอง
 9.  มีความจำแม่น                 
10.   วางตัวเหมาะสมกับกาลเทศะ


Apply:  
  • ทำให้เราได้เรียนรู้ถึงเทคนิคการปฏิบัติตัวการพัฒนาบุคคลิกภาพเพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบัติการเป็นผู้บริหารที่ดีและมีประสิทธิภาพ
Evaluation: 

 Teacher :  
  • เข้าสอนตรงเวลา อธิบายเนื้อหาได้ละเอียดชัดเจนตรงตามเนื้อหาที่เรียน 
   Friends:  
  • เข้าเรียนตรงต่อเวลา  แต่งกายเรียบร้อย  มีการเตรียมการนำเสนอมาอย่างดี
 Self:  
  • เข้าเรียนตรงต่อเวลา แต่งกายเรียบร้อย


วันอาทิตย์ที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2560

บันทึกการเรียนประจำวันพุธ ที่ 8 มีนาคม 2560

Lesson 7



 Knowledge:


  • นำเสนอคำคม
นางสาวปัณฑิตา  คล้ายสิงห์




นางสาวชนากานต์ แสนสุข






นางสาวสุจิตรา  มาวงษ์


นางสาวภัทรวรรณ  หนูแก้ว

นางสาวศุทธินี  โนนริบูรณ์
















  • นำเสนอวิจัยที่เกี่ยวข้องการบริหาร  (งานกลุ่ม )
กลุ่มที่ 1  วิจัยเรื่อง  ความเป็นผู้บริหารมือชีพของมหาบัณฑิต 


สาขาวิชาการบริหารสถานศึกษา มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ

 ผู้วิจัย    อัญชลี พิมพ์พจน์   ปีการศึกษา   2553



วัตถุประสงค์ของการวิจัย 
1. เพื่อศึกษาความเป็นผู้บริหารมืออาชีพของมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา  คณะศึกษาศาสตร์มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ใน 9 ด้าน คือ ด้านการบริหารงานวิชาการ ด้านการบริหารงบประมาณ ด้านการบริหารงานบุคคล ด้านการประกันคุณภาพการศึกษา ด้านการบริหารการประชาสัมพันธ์และความสัมพันธ์ชุมชน  ด้านการบริหารกิจการนักเรียน ด้านการบริหารจัดการเทคโนโลยีสารสนเทศ ด้านวิจัยทางการศึกษา  ด้านคุณธรรมและจริยธรรม ตามความคิดเห็นของมหาบัณฑิตและผู้ร่วมงานขิงมหาบัณฑิต
2. เพื่อเปรียบเทียบความคิดเห็นของมหาบัณฑิตและผู้ร่วมงานของมหาบัณฑิตในความเป็นผู้บริหารมืออาชีพ ของมหาบัณฑิตสาขาวิชาการบริหารการศึกษา   มหาลัยศรีนครินทรวิโรฒ จำแนกตามสถานภาพ หน่วยงานที่สังกัดและปีที่สำเร็จการศึกษา

ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
1.  มีความรู้ความสามารถและประสบการณ์การใช้ศาสตร์และศิลป์ในการบริหารการศึกษา
อย่างมีประสิทธิภาพและมีประสิทธิผล สอดคล้องกับบริบททางวัฒนธรรม และระบบ
คุณค่าแห่งสังคมไทยโดยรวม ท้องถิ่นและชุมชน
2.  เป็นนักบริหารมืออาชีพที่มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ก้าวทันมิติแห่งการเปลี่ยนแปลง
3.  มีความรู้ความสามารถในการศึกษาค้นคว้าและวิจัย เพื่อประโยชน์ต่อการบริหาร
การศึกษาให้บรรลุผล และมีความรู้ความสามารถในการศึกษาค้นคว้า สามารถนําเอา
ทฤษฎีหรือผลการวิจัยไปประยุกต์ใช้ในการแก้ปัญหาหรือพัฒนาการบริหารการศึกษา
4.  มีความสามารถในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการทํางาน
5.  มีเจตคติที่ดีต่อวิชาชีพ และมีคุณธรรมจริยธรรม

กลุ่มที่ 2  วิจัยเรื่่อง การศึกษาสมรรถนะการบริหารด้านวิชาการระดับปฐมวัยของผู้บริหารสถานศึกษา ในโรงเรียนประถมศึกษา สังกัดกรุงเทพมหานคร สำนักงานเขตภาษีเจริญ

วัตถุประสงค์ของการวิจัย 


1. เพื่อศึกษาสมรรถนะการบริหารงานวิชาการระดับปฐมวัยของผู้บริหารสถานศึกษา ตามความคิดเห็นของครูในโรงเรียนประถมศึกษา ในสังกัดกรุงเทพมหานคร สำนักงานเขตภาษีเจริญ ในด้านการจัดการการเรียนรู้ การพัฒนาหลักสูตร การนิเทศ และการส่งเสริมการวิจัย
2. เพื่อเปรียบเทียบสมรรถนะการบริหารงานวิชาการระดับปฐมวัยของผู้บริหารสถานศึกษาตามความคิดเห็นของครูในโรงเรียนประถมศึกษา ในสังกัดกรุงเทพมหานคร สำนักงานเขตภาษีเจริญ ในด้านการจัดการการเรียนรู้ การพัฒนาหลักสูตร การนิเทศ และการส่งเสริมการวิจัยจำแนกตามตัวแปรประสบการณ์สอนและขนาดของโรงเรียน
3. เพื่อรวบรวมข้อเสนอแนะเกี่ยวกับสมรรถนะการบริหารงานวิชาการระดับปฐมวัยของผู้บริหารสถานศึกษาในโรงเรียนประถมศึกษา สังกัดกรุงเทพมหานคร สำนักงานเขตภาษีเจริญ

สะท้อนองค์ความรู้ที่ได้จากวิจัย

สมรรถนะการบริหารด้านวิชาการระดับปฐมวัยของผู้บริหารสถานศึกษาตามความคิดเห็นของครูปฐมวัยโดยรวมครูปฐมวัยที่มีประสบการณ์สอนต่างกันมีความคิดเห็นต่อ สมรรถนะการบริหารด้านวิชาการระดับปฐมวัยของผู้บริหารสถานศึกษา ด้านการจัดการเรียนรู้ และด้านการพัฒนาหลักสูตรโดยครูที่มีประสบการณ์สอน 5 ปีขึ้นไปมีสมรรถนะการบริหารงานวิชาการมากกว่าครูที่มีประสบการณ์สอนต่ำกว่า 5 ปี การปฏิบัติงานในโรงเรียนขนาดต่างกันมีความคิดเห็นต่อสมรรถนะการบริหารด้านวิชาการระดับปฐมวัยของผู้บริหารสถานศึกษา



กลุ่มที่ 3 วิจัยเรื่อง การบริหารแบบมีส่วนร่วมที่ส่งผลประสิทธิภาพการทำงานเป็นทีมของผู้บริหารสถานศึกษาเอกชนระดับปฐมวัย    การศึกษาระดับ ปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิต   มหาวิทยาลัยศิลปกร
ผู้วิจัยนางสาวกัญวัญญ์  ธารีบุญ   ปีการศึกษา 2557



วัตถุประสงค์ของการวิจัย 


1. เพื่อทราบการบริหารแบบมีส่วนร่วมของผู้บริหารสถานศึกษาเอกชนระดับปฐมวัย
2. เพื่อทราบประสิทธิภาพการทำงานเป็นทีมของผู้บริหารศาสตร์ศึกษาเอกชนระดับปฐมวัย
3. เพื่อทราบการบริหารแบบมีส่วนร่วมที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานเป็นทีมของผู้บริหารสถานศึกษาเอกชนระดับปฐมวัย

ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ


  1. การบริหารแบบมีส่วนร่วมจะช่วยให้องค์กรประสบความสำเร็จ
  2. เพื่อให้บุคลากรรู้ถึงคุณค่าและความสำคัญในหน้าที่ของตน และรู้สึกว่าตนเองมีค่าต่อทีมเสมอ
  3. เกิดการยอมรับ และสร้างความมั่นใจในคุณค่าของการทำงานเป็นทีม และรู้สึกว่าตนเองมีค่าต่อทีมเสมอ และแสดงความสามารถมากขึ้น
  4. ส่งผลให้องค์การมีโอกาสก้าวหน้าในงาน เกิดความรู้สึกภูมิใจในความสำเร็จ จะช่วยจูงใจให้เกิดการเสียสละ อุทิศตนในงาน
  5. โรงเรียนเอกชนระดับปฐมวัยสามารถนำงานวิจัยชิ้นนี้ไปพัฒนาโรงเรียนของตนเองได้



Apply:  
  • ทำให้เราได้เรียนรู้ถึงวิจัยต่างๆที่เกี่ยวกับการบริหารเพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบัติการเป็นผู้บริหารที่ดีและมีประสิทธิภาพ
Evaluation: 

 Teacher :  
  • เข้าสอนตรงเวลา อธิบายเนื้อหาได้ละเอียดชัดเจนตรงตามเนื้อหาที่เรียน 
   Friends:  
  • เข้าเรียนตรงต่อเวลา  แต่งกายเรียบร้อย  มีการเตรียมการนำเสนอมาอย่างดี
 Self:  
  • เข้าเรียนตรงต่อเวลา แต่งกายเรียบร้อย